fbpx

ขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัยในทุกสถานการณ์

ขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัย

โดยทั่วไปแล้วการขับขี่รถยนต์นั้นหากทุกคนปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดก็จะช่วยลดอุบัติเหตุได้มาก แต่ในหลายๆ ครั้งกฎจราจรอาจไม่เพียงพอที่จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุ แต่ต้องใช้ทั้งสติ ความระมัดระวัง ความชำนาญ และอีกหลายปัจจัย ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดขับ หรือมีประสบการณ์ขับรถมานานหลายปี เราก็อยากให้คุณทำตามคำแนะนำต่อไปนี้อยู่เสมอ

รถและร่างกายต้องพร้อม

  • ตรวจเช็กสภาพรถยนต์ให้ดีก่อนใช้งาน โดยเฉพาะก่อนการเดินทางไกล เช่น ดูดอกยางและลมยางรถ เช็กสภาพกระจกมองข้าง ไฟหน้า-หลัง และไฟเลี้ยว ระบบเบรก ระดับน้ำในหม้อน้ำ เพื่อความชัวร์ควรนำรถไปเข้าศูนย์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียด
  • หากต้องขับรถทางไกล ควรวางแผนหยุดพักทุกๆ 2 ชั่วโมง ไม่ให้ร่างกายเหนื่อยล้าเกินไป แม้ว่าคุณจะมีร่างกายที่แข็งแรงแต่การเพ่งสมาธิและใช้ประสาทสัมผัสหลายๆ ส่วนเมื่อต้องขับรถเป็นเวลานานๆ จะทำให้ร่างกายเหนื่อยง่ายกว่าปกติ และการนั่งนานๆ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี ควรแวะดื่มน้ำเพื่อเพิ่มความสดชื่น แต่ควรหลีกเลี่ยงแป้งและน้ำตาลเพราะจะทำให้ง่วงง่าย ยืดเหยียดกล้ามเนื้อให้ผ่อนคลาย ทางที่ดีควรพาเพื่อนไปด้วยเพื่อช่วยสลับกันขับ
  • เมื่อรู้สึกเพลียหรือมองไม่ค่อยชัด อย่าฝืนขับต่อ ให้หาที่จอดรถข้างทางแล้วหลับตาสักครู่ แต่ถ้าง่วงจริงๆ ให้หาปั๊มใกล้ๆ เพื่อจอดรถแล้วนอนพักจะดีที่สุด

ไม่ประมาท

  • ตั้งสมาธิไปที่เส้นทางข้างหน้าให้ดี อย่าละสายตา มือทั้งสองข้างจับพวงมาลัยอยู่เสมอ ไม่ว่อกแว่ก ไม่โทรศัพท์หรือเอาแต่ดูหน้าจอมือถือขณะขับรถ หากใช้ Google Maps เพื่อดูแผนที่ให้เน้นฟังเสียงบอกทางแทนการดูหน้าจอ หรือให้เพื่อนที่นั่งไปด้วยช่วยดูให้แทน
  • เมื่อเห็นถนนโล่ง อย่าชะล่าใจแล้วเร่งความเร็วมากๆ เตือนตัวเองไว้เสมอว่าอาจเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้นได้ตลอดเวลา เช่น มีคนวิ่งตัดหน้ารถ หรือเจอสิ่งกีดขวางบนท้องถนน
  • เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้เหมาะสม แต่ยิ่งใช้ความเร็วสูงยิ่งต้องเว้นให้ห่างขึ้นอีกเพื่อให้มีเวลาเบรกหากคันหน้าเบรกกะทันหันหรือมีเหตุฉุกเฉิน กรณีที่ฝนตกก็ต้องเว้นระยะห่างให้มากขึ้นเช่นเดียวกันเพราะถนนจะลื่นมากกว่าปกติ ในกรณีที่ขับในเมืองแล้วการจราจรหนาแน่น ให้เว้นระยะประมาณ 3-4 เมตร หรือประมาณ 1 คันรถเป็นอย่างน้อย

เพิ่มความระมัดระวัง

  • ระวังเป็นพิเศษเมื่อต้องขับออกจากซอย มองซ้ายขวาให้รอบ โดยเฉพาะทางซ้ายที่มักจะมีมอเตอร์ไซค์แทรกซ้ายออกไปก่อนบ่อยๆ
  • เมื่อฝนตก รถอาจเกิดอาการเหินน้ำได้ ให้พยายามขับรถเลนกลางเพราะแอ่งน้ำมักจะขังอยู่เลนนอก และลดความเร็วลง
  • หลีกเลี่ยงเส้นทางที่น้ำท่วม เพราะอาจมีหลุมบ่อแล้วทำให้มองไม่เห็น ที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุหรือน้ำเข้าท่อไอเสียกับเครื่องยนต์จนรถดับได้ หากจำเป็นต้องขับผ่านให้ใช้ความเร็วต่ำเพื่อป้องกันน้ำกระเด็นเข้าเครื่องยนต์
  • หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้รถบรรทุก เพราะคนขับมักสังเกตเห็นรถคันอื่นได้ยาก และบางครั้งอาจมีเศษหินหรือดินที่บรรทุกกระเด็นมากระแทกหน้ารถจนเป็นอันตรายได้
  • เมื่อต้องขับทางลาดชัน หรือขึ้นลงสะพาน ให้ใช้เกียร์ต่ำขับชิดขอบด้านซ้ายไปเรื่อยๆ เพื่อประคองรถ อย่าแซงหรือเร่งความเร็วขณะขึ้นลง ถ้าหากติดไฟแดงขณะอยู่บนทางลาดชันพอดีให้แตะเบรกไว้ ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ แต่ถ้าหากติดนานจริงๆ ให้เหยียบเบรกไว้ เปลี่ยนเป็นเกียร์ว่างแล้วใช้เบรกมือช่วยเพื่อกันรถไหล ห้ามใช้เกียร์ P เพราะเกียร์จะพังเร็ว

แก้ปัญหาอย่างมีสติ

  • หากได้กลิ่นเหม็นไหม้ ได้ยินเสียงดังแปลกๆ หรือพบความผิดปกติอื่นๆ ให้รีบหาที่จอดรถทันที จากนั้นเปิดไฟฉุกเฉินแล้วตรวจหาสาเหตุ หากไม่มีความชำนาญให้โทรเรียกช่าง อย่าพยายามซ่อมเอง
  • หากเบรกมีปัญหา ให้ควบคุมสติแล้วปล่อยคันเร่ง จากนั้นค่อยๆ ยกเบรกมือทีละนิดจนสุด รถจะลดความเร็วลงจนหยุดได้ในที่สุด
  • หากรถเสียหลัก ให้ตั้งสติดีๆ ค่อยๆ เหยียบเบรก อย่ากระแทกเบรกหรือหักเลี้ยวแรงๆ ถ้ารถหมุนให้บังคับพวงมาลัยสวนไปในทางตรงกันข้าม

คำแนะนำเหล่านี้น่าจะช่วยให้การขับขี่ของคุณไปถึงเป้าหมายได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้การเลือกใช้ยางรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงของ Nexen ที่ยึดเกาะดีเยี่ยมทั้งบนถนนเปียกและถนนแห้ง ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจทั้งในทางตรงและขณะเข้าโค้ง ก็จะช่วยให้ปลอดภัยขึ้นไปได้อีกขั้น