fbpx

ผ้าเบรครถยนต์ ใช้ได้กี่ปี พร้อมวิธีสังเกตเมื่อผ้าเบรคเสื่อม

ระบบเบรค

ใส่ใจเรื่องผ้าเบรค เพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถยนต์

อุปกรณ์ในรถยนต์มีอยู่หลายส่วน แต่ละส่วนมีหน้าที่แตกต่างกันไป ผู้ขับขี่ไม่ควรมองข้ามประสิทธิภาพของอุปกรณ์แต่ละชนิดในรถ ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยที่ต้องมีการเปลี่ยนถุงลมนิรภัยทันที หากพบปัญหาเรื่องความปลอดภัย ยางรถยนต์เสื่อมคุณภาพที่ต้องรีบเปลี่ยนเช่นกัน หรือแม้กระทั่งปัญหาจากผ้าเบรคที่ส่งผลต่อการหยุดรถ หากไม่รีบแก้ไขจะทำให้รถไถลและเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

ประเภทของผ้าเบรครถยนต์

จานเบรคและผ้าเบรค
การเลือกผ้าเบรคให้เหมาะกับรถช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้

ผ้าเบรครถยนต์เป็นส่วนที่ส่งผลต่อการเบรคโดยตรง เมื่อเหยียบเบรค ผ้าเบรคจะสร้างแรงเสียดทานระหว่างตัวผ้าเบรคเองกับดรัมเบรค หรือดิสก์เบรค เพื่อทำให้ล้อรถยนต์ชะลอตัวและหยุดลง หากผ้าเบรคเสียหายจะทำให้ระบบหยุดรถทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ การเลือกผ้าเบรครถยนต์ ยี่ห้อไหนดีมักจะพิจารณาจากความน่าเชื่อถือและวัสดุที่ทำผ้าเบรคเป็นหลัก สามารถแบ่งผ้าเบรคออกได้เป็น 5 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้

1.) กลุ่มผ้าเบรค Standard
ผ้าเบรคกลุ่มแรกเป็นกลุ่ม Standard เป็นผ้าเบรคที่มีส่วนผสมของสาร ASBESTOS ซึ่งเป็นแร่ใยหินชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในผ้าเบรครุ่นเก่า ราคาไม่สูงมาก แต่มีฝุ่นผงหลุดออกมาจากผ้าเบรค ทำให้ล้อรถเปื้อน และเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ

2.) กลุ่มผ้าเบรค NON ASBESTOS ORGANIC
ผ้าเบรคกลุ่มนี้เป็นผ้าเบรคเนื้ออินทรีย์ ใช้ใยสังเคราะห์ที่ไม่ใช่โลหะในการผลิต มีประสิทธิภาพการยึดเกาะดีกว่ากลุ่มแรก ราคาจึงสูงกว่ากลุ่มแรกด้วย มีข้อเสียที่ช่วงแรกของการขับขี่ หรือช่วงที่เบรคเย็น ประสิทธิภาพการเบรคจะยังไม่ค่อยดี ต้องขับไปสักระยะหนึ่งก่อน ผ้าเบรคประเภทนี้จึงเหมาะกับรถที่ขับเป็นระยะเวลานาน

3.) กลุ่มผ้าเบรค Semi-Metallic
ผ้าเบรคที่ทำมาจากใยหินและโลหะที่เป็นมิตรต่อระบบทางเดินหายใจของสิ่งมีชีวิต สามารถทนความร้อนและระบายความร้อนได้ดี อายุการใช้งานจะสูงกว่าผ้าเบรค 2 กลุ่มข้างต้น แต่ยังควบคุมเสียงและฝุ่นขณะใช้งานเบรคได้ไม่ค่อยดีนัก

4.) กลุ่ม Metallic
ผ้าเบรคกลุ่มนี้จะใช้ผงเหล็กที่มีคุณสมบัติเฉพาะในการใช้งานเบรคมาขึ้นรูป ทำให้การใช้งานช่วยลดแรงเสียดทานบนท้องถนนได้ดี ทนความร้อนได้สูง ผ้าเบรคชนิดนี้เป็นผ้าเบรครถยนต์ราคาสูง แต่ประสิทธิภาพการใช้งานได้รับการยอมรับเป็นวงกว้างมากกว่า

5.) กลุ่มผ้าเบรค Advance Material
ผ้าเบรคกลุ่มนี้จะใช้วัสดุทำผ้าเบรคที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการออกแบบผ้าเบรคให้เหมาะสมกับการใช้งาน แบ่งการใช้งานออกเป็นหลายเกรด เช่น

  • เกรด S-Standard สำหรับการใช้งานทั่วไป ลดแรงเสียดทานได้ทันที เหมาะกับการใช้งานในช่วงความเร็วต่ำถึงสูง ไม่ต้องอุ่นเบรค
  • เกรด M-Medium-Metal เป็นผ้าเบรคที่ดีกว่าแบบ Standard ทำมาจากโลหะอ่อน เบรคได้ดีในช่วงความเร็วปานกลางถึงสูง และคงประสิทธิภาพในช่วงความเร็วต่ำ
  • เกรด R-Racing สำหรับรถแข่ง มีส่วนผสมของโลหะมาก การใช้งานที่ดีจึงต้องอุ่นผ้าเบรคให้ร้อนก่อน

การใช้งานผ้าเบรคควรเลือกผ้าเบรคที่เหมาะกับรถ ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้เปลี่ยนผ้าเบรคให้ เพราะผ้าเบรคแต่ละชนิดเหมาะกับรถคนละประเภทกัน

การสังเกตผ้าเบรคเสื่อมประสิทธิภาพ

ซ่อมจานเบรค
เมื่อผ้าเบรคเสื่อมประสิทธิภาพควรเปลี่ยนทันที

ผ้าเบรคเป็นส่วนที่มีความสำคัญมาก หากพบว่าผ้าเบรคเสื่อมประสิทธิภาพควรเปลี่ยนผ้าเบรคทันที มีข้อสังเกตเกี่ยวกับผ้าเบรคเสื่อมประสิทธิภาพ ดังนี้

  • ความหนาของผ้าเบรค

วิธีการสังเกตผ้าเบรคต้องรู้ก่อนว่าผ้าเบรครถยนต์หนากี่มิลลิเมตร ซึ่งโดยปกติผ้าเบรคจะมีความหนาอยู่ที่ 10 มิลลิเมตร ความหนาที่ควรเปลี่ยนผ้าเบรคคือเมื่อผ้าเบรคเหลือความหนาอยู่เพียง 4 มิลลิเมตรหรือน้อยกว่านั้น ตรวจสอบความหนาของผ้าเบรคได้โดยให้ร้านซ่อมรถตรวจสภาพรถยนต์ให้

  • การตอบสนองต่อการดึงเบรคมือ

เบรคมือ หรือ Parking Break เป็นเบรคที่ใช้เมื่อรถจอดอยู่นิ่ง ซึ่งการดึงเบรคมือนี้สามารถวัดประสิทธิภาพผ้าเบรคได้ คือ หากดึงเบรคมือแล้วรู้สึกว่าต้องดึงเบรคมือให้สูงกว่าปกติจึงจะรู้สึกว่ารถจอดสนิท แสดงว่าผ้าเบรคใกล้จะหมดแล้ว

  • เสียงดังขณะเบรค

ในช่วงที่ใช้รถแล้วมีการเบรคระหว่างทาง หากมีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดคล้ายเสียงโลหะกระทบกัน และเบรคไม่ค่อยอยู่เหมือนเดิม ให้สันนิษฐานว่าผ้าเบรคมีปัญหา เพราะเสียงที่เกิดขึ้นมีโอกาสเกิดจากจานเบรคเสียดสีกับล้อโลหะที่ปกติจะเป็นผ้าเบรคที่ลดแรงกระแทกส่วนนี้เอาไว้

  • ไฟเตือนเบรคมือขึ้นเตือนบนหน้าปัด

สัญญาณไฟเตือนบนแผงหน้าปัดรถยนต์เป็นตัวเช็กสุขภาพของระบบต่าง ๆ ในรถยนต์ หากมีสัญญาณสีแดงขึ้นบริเวณเบรคมือ อาจจะเกิดข้อขัดข้องบางอย่างกับเบรคมือ และมีโอกาสที่จะเป็นความเสียหายจากผ้าเบรคได้ด้วย จึงควรตรวจสอบโดยทันที

  • ระยะเวลาการใช้ผ้าเบรค

ผ้าเบรคมีอายุการใช้งาน โดยปกติจะใช้งานได้ประมาณ 60,000 – 80,000 กิโลเมตร หากใช้งานรถยนต์ครบตามระยะแล้วควรเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่ แม้การใช้งานเบรคจะยังคงดีอยู่ก็ตาม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการเบรคที่อาจเกิดขึ้นได้

ปัญหาผ้าเบรคเสื่อมประสิทธิภาพไม่ใช่เรื่องเล็กเลย สามารถก่อให้เกิดอุบัติเหตุขนาดใหญ่ได้ ผู้ขับขี่ควรรู้ว่าผ้าเบรครถยนต์หมดดูอย่างไรเบื้องต้น เช่น รู้ระยะเวลาที่ควรเปลี่ยนผ้าเบรค อาการของรถที่ผ้าเบรคใกล้จะหมด เพื่อให้สามารถเปลี่ยนผ้าเบรคได้ทันเวลา

ประสิทธิภาพการเบรคของรถทำงานประสานกันระหว่างผ้าเบรค ล้อรถ และยางรถยนต์ ไม่ควรละเลยอย่างใดอย่างหนึ่ง การถนอมผ้าเบรคที่ถูกต้องคือเปลี่ยนผ้าเบรคเมื่อครบกำหนดเวลา มีการตรวจสภาพรถยนต์เป็นประจำ รวมถึงใส่ใจเรื่องของยางรถยนต์ เลือกยางรถยนต์ที่มีคุณภาพ ออกแบบดอกยางให้เหมาะกับการยึดเกาะและรีดน้ำตอนถนนเปียก หากเป็นรถที่ใช้งานในเมือง หรือวิ่งบนถนนที่ไม่ขรุขระมาก แนะนำยางรถยนต์ NEXEN TIRE ที่ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิตยาง การันตีด้วยรางวัลความพึงพอใจ 12 ปีซ้อนจากผู้ใช้ชาวเกาหลีใต้ พร้อมโปรโมชั่นประกันยางรถยนต์ฟรี 1 ปี หรือระยะทาง 25,000 กิโลเมตร ในกรณียางบาด ยางบวม ยางแตก เปลี่ยนยางใหม่ได้อย่างสบายใจ มีตัวแทนจำหน่ายขนาดใหญ่ทั่วประเทศ หรือติดต่อ NEXEN TIRE ได้ทางเว็บไซต์ และเฟซบุ๊ก m.me/NEXENTH