fbpx

ป้ายจราจรมีกี่ประเภท เรื่องควรรู้ของคนมีรถก่อนออกถนนใหญ่

เครื่องหมายจราจร

ทำความรู้เครื่องหมายจราจร สัญลักษณ์แนะนำการใช้เส้นทางแก่ผู้ขับขี่

เชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นเครื่องหมายหรือป้ายจราจรรูปแบบต่าง ๆ กันมาพอสมควร โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถยนต์ต้องรู้จักเป็นอย่างดี เพราะได้คลุกคลีอยู่เป็นประจำ จากการใช้ขับรถไปทำงาน หรือขับรถเที่ยวใกล้กรุงเทพหรือตามที่ต่าง ๆ หรือแม้แต่คนไม่มีรถก็ต้องเคยเห็นผ่านตามาบ้างจากการนั่งรถโดยสารประจำทาง ดังนั้นป้ายจราจรจึงเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ควรศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมทั้งนี้ก็เพื่อการใช้รถอย่างปลอดภัย ซึ่งจะช่วยให้การจราจรเป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว

ป้ายจราจรทั้งหมดมีกี่ประเภท

ป้ายจราจร ทั้งหมดมีด้วยกันอยู่ 3 ประเภท ได้แก่ ป้ายบังคับ ป้ายเตือน และป้ายแนะนำ

ป้ายบังคับ หมายถึง ป้ายจราจรที่มีความหมายเป็นการบังคับผู้ใช้เส้นทางให้ปฏิบัติตาม โดยจะกำหนดให้ผู้ขับขี่หรือใช้เส้นทางกระทำ หรืองดเว้นการกระทำ หรือจำกัดการกระทำบางอย่าง

ป้ายเตือน หมายถึง ป้ายที่มีความหมายเตือนให้ผู้ใช้เส้นทางทราบล่วงหน้าถึงสภาพทางข้างหน้า เพื่อให้ใช้เส้นทางโดยความระมัดระวังมากขึ้น

ป้ายแนะนำ หมายถึง ป้ายที่มีความหมายเป็นการแนะนำผู้ใช้เส้นทางทราบถึงข้อมูลต่าง ๆ เช่น ระยะทาง สถานที่ ทิศทาง เส้นทางที่ใช้ เพื่อประโยชน์ในการใช้เส้นทาง

ป้ายบังคับจราจร แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

1. ป้ายบังคับประเภทกำหนดสิทธิ์ ได้แก่
ป้ายหยุด ป้ายให้ทาง ป้ายให้รถสวนทางมาก่อน

2. ป้ายบังคับประเภทห้าม ได้แก่
ป้ายห้ามแซง ป้ายห้ามเข้า ป้ายห้ามเลี้ยว ป้ายห้ามกลับรถ ป้ายห้ามเปลี่ยนช่องทาง ป้ายห้ามรถยนต์ ป้ายห้ามรถบรรทุก ป้ายห้ามรถจักรยานยนต์ ป้ายห้ามรถจักรยาน ป้ายห้ามรถพ่วง ป้ายห้ามล้อเลื่อนลากเข็น ป้ายห้ามรถสามล้อ ป้ายห้ามใช้เสียง ป้ายห้ามจอด ป้ายหยุดตรวจ ป้ายจำกัดความเร็ว ป้ายห้ามคนผ่าน

3. ป้ายบังคับประเภทคำสั่ง ได้แก่
ป้ายให้เดินรถทางเดียวหรือไปข้างหน้า ป้ายให้เดินรถไปทางซ้ายหรือทางขวา ป้ายทางเดินรถทางเดียวไปทางซ้าย ป้ายทางเดินรถทางเดียวไปทางขวา ป้ายให้ชิดซ้าย ป้ายให้ชิดขวา ป้ายให้เลี้ยวซ้าย ป้ายให้เลี้ยวขวา ป้ายวงเวียน ป้ายช่องเดินรถประจำทาง ป้ายช่องเดินรถมวลชน ป้ายเฉพาะคนเดิน ป้ายช่องเดินรถจักรยานยนต์ ป้ายช่องเดินรถจักรยาน ป้ายให้ใช้ความเร็ว ป้ายสุดเขตบังคับ

เครื่องหมายจราจร
ป้ายจราจร สัญลักษณ์ที่บอกถึงการแจ้งหรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ถนน

ป้ายเตือนจราจร แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

1. ป้ายเตือนตามสัญลักษณ์
ป้ายทางโค้ง ป้ายทางแยก ป้ายทางแคบทั้งสองด้าน ป้ายวงเวียนข้างหน้า ป้ายทางแคบด้านซ้าย ป้ายทางแคบด้านขวา ป้ายสะพานแคบ ป้ายช่องทางจราจรปิด ป้ายทางข้ามทางรถไฟไม่มีเครื่องกั้นทาง ป้ายทางลอดต่ำ ป้ายผิวทางขรุขระ ป้ายเตือนรถกระโดด ป้ายทางลื่น ป้ายระวังหินร่วง ป้ายผิวทางร่วน ป้ายเปลี่ยนช่องทางจราจร ป้ายออกทางขนาน ป้านทางคู่ขนาน ป้ายสิ้นสุดทางคู่ ป้ายจุดกลับรถ

2. ป้ายเตือนแสดงด้วยข้อความ
เป็นป้ายจราจรสีเหลืองรูปสี่เหลี่ยม เส้นขอบป้าย ข้อความ และสัญลักษณ์สีดำ ได้แก่
ป้ายงานก่อนสร้าง ป้ายสำรวจทาง ป้ายคนทำงาน ป้ายเครื่องจักรกำลังทำงาน ป้ายทางเบี่ยงซ้าย ป้ายทางเบี่ยงขวา

3. ป้ายเตือนแนวทางต่าง ๆ
หมายความว่าบริเวณที่ติดตั้งป้ายมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการจราจรไปตามทิศทางที่ชี้ไป

ป้ายแนะนำจราจร
ป้ายแนะนำ เป็นป้ายจราจรที่แนะนำให้ผู้ใช้ทางทราบข้อมูลอันเกี่ยวกับการเดินทาง การจราจร และการนำไปสู่จุดหมายปลายทาง เช่น เส้นทางที่จะใช้ ทิศทาง ระยะทาง สถานที่ รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ เป็นต้น เพื่อประโยชน์ในการเดินทางได้ถูกต้อง สะดวก และปลอดภัย ลักษณะของสีพื้นป้าย สัญลักษณ์ ตัวอักษร ตัวเลข จะเปลี่ยนไปตามประเภทของทางหลวง ได้แก่

ทางหลวงสัมปทาน และทางหลวงพิเศษที่เก็บค่าผ่านทาง
พื้นป้ายสีน้ำเงิน เส้นขอบป้ายสีขาว สัญลักษณ์ ตัวอักษร และตัวเลขเป็นสีขาว

ทางหลวงพิเศษ
พื้นป้ายสีเขียว เส้นขอบป้ายสีขาว สัญลักษณ์ ตัวอักษร และตัวเลขเป็นสีขาว

ทางหลวงแผ่นดิน
พื้นป้ายสีขาว เส้นขอบป้ายสีดำ สัญลักษณ์ ตัวอักษร และตัวเลขเป็นสีดำ
*ยกเว้นป้ายที่แนะนำเข้าสู่ทางหลวงที่ไม่ใช่ประเภทเดียวกับทางหลวงที่ติดตั้งป้าย ให้ใช้สีพื้นป้ายแนะนำตามประเภททางหลวง

และทั้งหมดนี้ก็คือเครื่องหมายจราจรประเภทต่าง ๆ ที่บอกให้ผู้ใช้เส้นทางได้ทราบถึงการบังคับ การเตือน และการแนะนำเกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนน ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยให้การจราจรเป็นไปโดยสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยทั้งต่อตนเองและผู้อื่น อย่างไรก็ตามเมื่อทราบความหมายของป้ายจราจรแล้ว เพื่อให้การใช้รถใช้ถนนปลอดภัยยิ่งขึ้นจำเป็นต้องดูแลรถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

เช็กสภาพรถยนต์ให้พร้อมก่อนเดินทางต้องดูอะไรบ้าง

1. แบตเตอรี่รถยนต์
แบตเตอรี่จะต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ สะอาด บริเวณขั้วแบตเตอรี่ต้องไม่มีคราบขี้เกลือ ระดับน้ำกลั่นอยู่ในระดับที่เหมาะสม ที่สำคัญแบตเตอรี่ยังไม่หมดอายุการใช้งาน

2. ระบบเบรก หรือ ผ้าเบรก
ระบบเบรกหรือห้ามล้อต้องทำงานเต็มประสิทธิภาพ บังคับหยุดรถได้ตามสั่งทันต่อทุกสถานการณ์ เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยทุกเส้นทาง

3. น้ำมันเครื่อง
เพื่อการทำงานของเครื่องยนต์ที่เต็มประสิทธิภาพ ระดับน้ำมันเครื่องยนต์ต้องเหมาะสม หากน้ำมันเครื่องน้อยเกินไปเครื่องยนต์อาจพังได้

4. น้ำมันเกียร์
น้ำมันเกียร์มีทั้งชนิดเกียร์ธรรมดาและเกียร์ออโต้ ทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวเชื่อมให้เกียร์ทำงานปกติ ไม่สะดุดระหว่างเปลี่ยนเกียร์

5. หม้อน้ำและระบบหล่อเย็น
ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถระบายความร้อนสะสม ไม่ทำให้เครื่องยนต์น็อคหรือพัง โดยเฉพาะการขับรถระยะทางไกล

6. ระบบไฟส่องสว่าง
การขับรถที่ปลอดภัยโดยเฉพาะเวลากลางคืนระบบไฟส่องสว่างมีความสำคัญ ควรตรวจเช็กให้แน่ใจว่าระบบไฟทำงานครบทั้งไฟหน้า ไฟเบรก ไฟเลี้ยว ไฟฉุกเฉิน ไฟตัดหมอก เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

7. ล้อและยางรถยนต์
ล้อและยางรถยนต์คือชิ้นส่วนที่ได้รับแรงเสียดสี แรงกดทับ แรงกระแทกโดยตรงกับพื้นถนน จึงจำเป็นต้องดูแลตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งในเรื่องของความสมบูรณ์ของยาง ยางต้องไม่เสื่อมสภาพ บวม แตกมีลายงา หรือฉีกขาด รวมถึงลมยางต้องอยู่ในระดับที่พอดี หากพบความผิดปกติต้องรีบแก้ไขทันที

และเมื่อกล่าวถึงยางรถยนต์แล้ว การเลือกใช้ยางรถยนต์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานสากล เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยทุกเส้นทาง หากท่านที่คิดจะเปลี่ยนยางแต่ยังไม่รู้เลือกยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี

ขอแนะนำ NEXEN TIRE ยางรถยนต์มาตรฐานระดับโลก

เน็กเซ็นผลิตยางให้กับรถยนต์หลายแบรนด์
ยางเน็กเซ็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำเลือกใช้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน (OE)

NEXEN TIRE ยางรถยนต์สัญชาติเกาหลีคุณภาพระดับโลก เป็นแบรนด์ที่มีประสบการณ์เรื่องยางมายาวนานกว่า 80 ปี ได้รับรางวัลอันดับ 1 จากผู้ใช้ชาวเกาหลีใต้ 12 ปีซ้อน ผลิตจากโรงงานที่ทันสมัยได้มาตรฐาน ทำให้ยางทุกเส้นที่ผลิตนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 เป็นต้นมายังไม่เคยถูกเรียกคืน รวมแล้วกว่า 500,000,000 เส้น ด้วยเหตุนี้ NEXEN TIRE จึงได้รับความไว้ใจจากยี่ห้อรถยนต์ชั้นนำมากมายให้ เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน (OE)

มียางรถยนต์ให้เลือกหลายประเภท หลายขนาด ทั้งรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ขนาดกลาง รถกระบะ รถ SUV ยางทุกเส้นรับประกันบาด บวม แตก เป็นระยะเวลา 1 ปี หรือ 25,000 กม. นับจากวันที่ซื้อ รับประกันยางตลอดอายุการใช้งานกรณีสินค้ามีปัญหาจากการผลิต พร้อมบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ที่สำคัญเป็นหนึ่งในยางที่ร้านยางรถยนต์ทั่วประเทศไว้ใจเลือกใช้บริการลูกค้า แถมมีจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ NEXEN TIRE และข้อความทางเฟซบุ๊ก m.me/NEXENTH